ต้นกล้วยน้ำหว้า |
วิธีการปลูกกล้วยน้ำว้า การขยายพันธุ์กล้วยน้ำหว้า
- วิธีปลูกกล้วยน้ำหว้า ถ้าให้ได้ผลดี ควรปลูกต้นฤดูฝน ปลูกในบริเวณที่สามารถรดน้ำได้อย่างทั่วถึง
- ขุดหลุมขนาดประมาณ 50x50x50 ซม.
- ผสมดินปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมกับปุ๋ยร็อคฟอสเฟส 50 กรัม ให้สูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
- ยกถุงกล้าต้นกล้วยน้ำหว้าวางในหลุมโดยระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
- ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากหลุมทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา) ดึงถุงพลาสติกออกโดยระวังอย่าให้ดินแตก
- กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น คลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง
- รดน้ำให้ชุ่ม
การใส่ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 อัตราการใส่ปุ๋ย 1 กิโลกรัม ต้น/ปี แบ่งใส่ 4 ครั้ง ๆ ละ 250 กรัม คือ
1 ใส่ปุ๋ยหลังปลูก 1 สัปดาห์ โดยใช้สูตร 15-15-15
2 ใส่ปุ๋ยหลังจากครั้งที่ 1 ประมาณ 3 เดือน โดยใช้สูตร 15-15-15
3 ใส่ปุ๋ยหลังจากครั้งที่ 2 ประมาณ 3 เดือน โดยใช้สูตร 15-15-15
4 ใส่ปุ๋ยหลังจากครั้งที่ 3 ประมาณ 3 เดือน โดยใช้สูตร 13-13-21
การตัดแต่งหน่อกล้วยน้ำหว้า
หลัง จากปลูกประมาณ 3-4 เดือน จะมีหน่อขึ้นมารอบ ๆ โคน ตัดไปเรื่อยจนกว่าจะเริ่มออกปลี หรือหลังปลูกแล้วประมาณ 7-8 เดือน ควรมีการไว้หน่อทดแทน 1-2 หน่อ โดยหน่อที่ 1 และที่ 2 ควรมีอายุห่างกัน 4 เดือน เพื่อให้ผลกล้วยมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเลือกหน่อที่อยู่ตรงกันข้าม
การขยายพันธุ์กล้วยน้ำหว้า
ขยายพันธุ์โดยแยกหน่อ, ขยายพันธุ์ด้วยเหง้า, เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
โรคใบจุดวงแหวน มะละกอ |
2. โรคใบจุดวงแหวน (Papaya Ring Spot Virus) อาการของโรค ใบมีอาการด่างเหลืองสลับเขียว โดยเฉพาะใบที่อยู่ส่วนบนของยอด ใบอ่อนที่เกิดใหม่จะค่อย ๆ เล็กลง บนผลจะเห็นลักษณะวงแหวนขนาดต่าง ๆ กัน เรียงเป็นวงเห็นได้ชัดเจน สาเหตุ ไวรัส พีอาร์เอสวี (PRSV) การป้องกันกำจัดโรค ปลูกพันธุ์ต้านทานต่อโรค ตอนทำลายต้นที่แสดงอาการของโรครุนแรง ตอนนี้มะละกอของคุณพันธ์ศักดิ์ กำลังจะเป็นสาว ก็เลยนึกเลียดาย แต่ถ้าเป็นมะละกอแก่มีลูกแล้ว ก็คงไม่ห่วงนัก จะเป็นจะตายก็ช่าง นี่แหละหนาชายหนุ่ม ถ้าแน่ใจว่าต้นที่โค่นลงนั้นเป็นโรคใบจุดตามที่เขาบอกมานั้นก็ทำถูกแล้ว ต้นที่เหลือก็บำรุงให้แข็งแรงและอย่าให้ปุ๋ย N มากนัก ปุ๋ยหมักแกลบควรใช้เพาะจะได้แร่ ซิลิก้า เข้าไปด้วยจะทำให้เพลี้ยพาหะโรคเจาะใบอ่อนลำบาก เคมีหรือสมุนไพรไล่เพลี้ยควรใช้บ้างถ้าพบตัวเพลี้ย เจ้ามะละกอ พันธ์ เซซากินี้ลุงไม่รู้จักหรอก แต่ทั่วๆไปในปัจจุบันเขาจะหาพันธ์ที่ต้านทานโรคนี้ได้ มา
การทำยาฆ่าแมลงจากสมุนไพร
ส่วนผสม
1. สะเดา 1 กก.
2. ฟ้าทะลายโจร 1 กก.
3. ข่า 1 กก.
4. สาบเสือ 1 กก.
5. ยาสูบ 1 กก.
6. ตะไคร้หอม 1 กก.
7. ขมิ้น 1 กก.
8. ใบยอ 1 กก.
9. ฝักคูณ 1 กก.
11. ใบยูคา 1 กก.
12. กระเทียม 1 กก.
13. น้ำ 20 ลิตร
วิธีทำ
นำเอาสมุนไพรทั้งหมดมาสับให้ละเอียดเทใส่ปี๊บ นำกะละมังเติมน้ำแล้วต้มไฟอ่อนจนเดือดแล้วยกลงกรองเอาแต่น้ำ แล้วใช้น้ำยาล้างจานหรือเอ็น 70 (สารทำฟอง) เทลงไปในถังน้ำยาสมุนไพรใส่ประมาณ 50 ซีซี คนให้เข้ากันเก็บไว้ใช้
วิธีใช้ ผสมน้ำยาที่ได้ 30-40 ซีซี/น้ำเปล่า20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุกๆ 5-7 วัน
ฮวงจุ้ยของห้องน้ำถือเป็นอีกที่หนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ ไม่น้อยกว่าจุดอื่น ดังนั้นวันนี้ผมจะขอพูดถึง ฮวงจุ้ยคร่าวๆของห้องน้ำกันนะครับ
หากเราต้องการจะจัดห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ยมีหลักการดังนี้ครับ
1. อย่าวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูบ้านมากเกินไป เพราะโดยทั่วไปซินแสจะจัดให้ประตูบ้านของท่านรับกับพลังงานที่ดีประจำยุค (ยุคปัจจุบันคือยุคที่ 8 ปี พศ.2547-2567 ในฮวงจุ้ยระบบดาวเหิน หรือ Xuan Kong Flying Star) ดังนั้นหากห้องน้ำมาอยู่ใกล้ประตูหน้าของบ้านมากเกินไป จะเป็นตัวดูดกระแสโชคเข้าที่ห้องน้ำและไหลออกไปทั้งหมด เป็นที่มาของการเสียหายทางด้านโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
หากจำเป็นต้องวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูหน้าบ้านจริงๆ ก็ขอให้อย่าหันหน้าชนกับประตูหน้าบ้านโดยตรงนะครับ สภาวะของการไหลออกของกระแสจะได้ไม่รุนแรง หรือ หากจำเป็นต้องวางห้องน้ำให้ใกล้ประตูหน้าจริงๆ และยังต้องหันหน้าชนประตู ก็จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ปิดประตูห้องน้ำทุกๆครั้งที่เราไม่ใช้งานครับ
2. วางตำแหน่งห้องน้ำไว้ให้อยู่ในส่วนที่มีพลังงานที่ไม่ดีประจุอยู่ สำหรับซินแสที่มีความสามารถและประสบการณ์ มักจะเลือกวาวตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับจุดที่มีพลังงานที่ไม่ดีของฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน เนื่องจากรู้ว่าห้องน้ำมีสภาวะการไหลออกของกระแสอยู่ตลอดเวลา หากเราสามารถเลือกตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับพลังงานที่ไม่ดี ก็จะนำพาพลังงานที่ไม่ดีดังกล่าวออกไปได้มากเป็นพิเศษด้วย เรียกว่าเป็นการใช้ห้องน้ำให้เป็นประโยชน์ได้ดีมากๆเลยครับ
3. ไม่ควรหันหัวสุขภัณฑ์หนัก อ่างล้างหน้า หรือ ฝักบัว ให้ชนกับหัวเตียง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นห้องน้ำของห้องนอนเราหรือห้องน้ำของห้องคนอื่นๆในบ้านนะครับ เนื่องจากเมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวจะเกิดเสียงและการใช้สุขภัณฑ์หนักนั้นสามารถเกิดการกระทบกระเทือนได้ด้วย จะรบกวนการนอนของผู้ที่หันหัวเตียงเข้าหาอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมากครับ เราพิจารณาเฉพาะหัวเตียงที่หันหัวชนผนังด้านเดียวกันกับที่ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวโดยตรงก็พอครับ
4. ห้องน้ำควรวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับผนังด้านนอกบ้านหรือมีแสงสว่างเพียงพอ เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่มีความชื้นสูง เป็นที่สะสมของเชื้อโรค หากเราไม่วางห้องน้ำไว้ในตำแหน่งที่มีอากาศถ่ายเท ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสงแดดเข้า ก็จะยิ่งทำให้มีความชื้นสูงมากขึ้นไปอีก เป๊นที่มีความสุขภาพที่ไม่ดีได้ครับ โดยสำหรับห้องน้ำที่ไม่มีส่วนเปียกหรือส่วนอาบน้ำ จะไม่พิจารณาว่าหลักการนี้มีความสำคัญมากนักครับ
5. ประตูห้องน้ำไม่ควรชนเตียงนอน พิจารณาหลักการข้อนี้สำหรับห้องนอนที่นอนมากกว่าหนึ่งคนครับ เพราะหากมีการเปิดปิดประตูห้องน้ำเมื่อใช้งานเมื่อไร ก็จะมีการรบกวนการนอนของผู้ที่นอนอยู่ได้ครับ จะเป็นที่มีของการรบกวนการนอน ทำให้สุขภาพไม่ดี
หากเราต้องการจะจัดห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ยมีหลักการดังนี้ครับ
1. อย่าวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูบ้านมากเกินไป เพราะโดยทั่วไปซินแสจะจัดให้ประตูบ้านของท่านรับกับพลังงานที่ดีประจำยุค (ยุคปัจจุบันคือยุคที่ 8 ปี พศ.2547-2567 ในฮวงจุ้ยระบบดาวเหิน หรือ Xuan Kong Flying Star) ดังนั้นหากห้องน้ำมาอยู่ใกล้ประตูหน้าของบ้านมากเกินไป จะเป็นตัวดูดกระแสโชคเข้าที่ห้องน้ำและไหลออกไปทั้งหมด เป็นที่มาของการเสียหายทางด้านโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
หากจำเป็นต้องวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ใกล้ประตูหน้าบ้านจริงๆ ก็ขอให้อย่าหันหน้าชนกับประตูหน้าบ้านโดยตรงนะครับ สภาวะของการไหลออกของกระแสจะได้ไม่รุนแรง หรือ หากจำเป็นต้องวางห้องน้ำให้ใกล้ประตูหน้าจริงๆ และยังต้องหันหน้าชนประตู ก็จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ปิดประตูห้องน้ำทุกๆครั้งที่เราไม่ใช้งานครับ
2. วางตำแหน่งห้องน้ำไว้ให้อยู่ในส่วนที่มีพลังงานที่ไม่ดีประจุอยู่ สำหรับซินแสที่มีความสามารถและประสบการณ์ มักจะเลือกวาวตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับจุดที่มีพลังงานที่ไม่ดีของฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน เนื่องจากรู้ว่าห้องน้ำมีสภาวะการไหลออกของกระแสอยู่ตลอดเวลา หากเราสามารถเลือกตำแหน่งห้องน้ำให้ตรงกับพลังงานที่ไม่ดี ก็จะนำพาพลังงานที่ไม่ดีดังกล่าวออกไปได้มากเป็นพิเศษด้วย เรียกว่าเป็นการใช้ห้องน้ำให้เป็นประโยชน์ได้ดีมากๆเลยครับ
3. ไม่ควรหันหัวสุขภัณฑ์หนัก อ่างล้างหน้า หรือ ฝักบัว ให้ชนกับหัวเตียง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นห้องน้ำของห้องนอนเราหรือห้องน้ำของห้องคนอื่นๆในบ้านนะครับ เนื่องจากเมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวจะเกิดเสียงและการใช้สุขภัณฑ์หนักนั้นสามารถเกิดการกระทบกระเทือนได้ด้วย จะรบกวนการนอนของผู้ที่หันหัวเตียงเข้าหาอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมากครับ เราพิจารณาเฉพาะหัวเตียงที่หันหัวชนผนังด้านเดียวกันกับที่ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวโดยตรงก็พอครับ
4. ห้องน้ำควรวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับผนังด้านนอกบ้านหรือมีแสงสว่างเพียงพอ เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่มีความชื้นสูง เป็นที่สะสมของเชื้อโรค หากเราไม่วางห้องน้ำไว้ในตำแหน่งที่มีอากาศถ่ายเท ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสงแดดเข้า ก็จะยิ่งทำให้มีความชื้นสูงมากขึ้นไปอีก เป๊นที่มีความสุขภาพที่ไม่ดีได้ครับ โดยสำหรับห้องน้ำที่ไม่มีส่วนเปียกหรือส่วนอาบน้ำ จะไม่พิจารณาว่าหลักการนี้มีความสำคัญมากนักครับ
5. ประตูห้องน้ำไม่ควรชนเตียงนอน พิจารณาหลักการข้อนี้สำหรับห้องนอนที่นอนมากกว่าหนึ่งคนครับ เพราะหากมีการเปิดปิดประตูห้องน้ำเมื่อใช้งานเมื่อไร ก็จะมีการรบกวนการนอนของผู้ที่นอนอยู่ได้ครับ จะเป็นที่มีของการรบกวนการนอน ทำให้สุขภาพไม่ดี
ต้นแอฟฟริกันไวโอเลต |
เป็นที่ทราบกันดีว่าต้นชวนชม คือต้นไม้ที่มีคนหลากหลายวงการชื่นชอบและปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายครั้งที่มีการตั้งคำถามว่่าดินที่เหมาะสมในการปลูกชวนชมคือดินอะไร? คำตอบที่มักได้ยินเสมอคือ ดินใบก้ามปู แต่ในปัจจุบันดินใบก้ามปูที่ขายเป็นถุงในปัจจุบัน ไม่ค่อยมีคุณภาพ เนื่องจากผู้ที่ขายนำในก้ามปูสดมาตากให้แห้งคลุกกับน้ำ แล้วนำมากรอกถุงขาย โดยเราสังเกตุได้ง่ายๆว่าดินใบก้ามปูนั้นดีหรือไม่ให้ลองจับและขยี้ดู หากใบก้ามปูเละและขาดอย่างง่ายดาย แสดงว่าเป็นดินดินใบก้ามปูที่หมักและพร้อมจะนำไปปลูกชวนชมได้ทันที แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาทเรามีสูตรหมักดินใบก้ามปูดังนี้
นำใบก้ามปูที่ซื้อมาเทรวมเป็นกอง ใช้ EM รดให้ชุ่ม (EM ต้องเจือจาง หากซื้อเป็นขวดที่จำหน่ายตามร้านทั่วไป) เมื่อราดแล้วนำผ้ายางมาคลุม และทิ้งไว้ 7 วัน เมื่อครบ 7 วันให้พลิกใบก้ามปูที่อยู่ด้านบนลงด้านล่าง และคลุมด้วยพลาสติกเช่นเดิมอีก 7 วัน เมื่อครบกำหนดสามารถนำใบก้ามปูนั้นมาใช้งานได้ทันที
ข้อควรระวัง ในหน้าฝนการหมักใบก้ามปูต้องทำในที่ร่ม น้ำท่วมไม่ถึง
นำใบก้ามปูที่ซื้อมาเทรวมเป็นกอง ใช้ EM รดให้ชุ่ม (EM ต้องเจือจาง หากซื้อเป็นขวดที่จำหน่ายตามร้านทั่วไป) เมื่อราดแล้วนำผ้ายางมาคลุม และทิ้งไว้ 7 วัน เมื่อครบ 7 วันให้พลิกใบก้ามปูที่อยู่ด้านบนลงด้านล่าง และคลุมด้วยพลาสติกเช่นเดิมอีก 7 วัน เมื่อครบกำหนดสามารถนำใบก้ามปูนั้นมาใช้งานได้ทันที
ข้อควรระวัง ในหน้าฝนการหมักใบก้ามปูต้องทำในที่ร่ม น้ำท่วมไม่ถึง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ คุณคงต้องการทราบถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยให้กับต้นไม้ของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปการให้ปุ๋ยที่ถูกต้องคือ
หากเป็นปุ๋ยเคมี ให้ใส่ทุก 30 วันโดยไม้กระถางใส่ครั้งละ 1 ช้อนชา หากไม้ใหญ่ลงดิน ใช้ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม ต่อ 1 ต้น
หากเป็นปุ๋ยออสโมโค้ท(ปุ๋ยละลายช้า ใส่ทุกๆสามเดือน)
ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่ทุกๆ 14 วัน ในอัตราส่วนข้างต้น
หรือการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้องคืออ่านสลากปุ๋ยข้างผลิตภัณฑ์จะดีที่สุดการใส่ปุ๋ยมากเกินไป ไม่ช่วยทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารมากขึ้น แต่จะทำให้เราสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและปุ๋ยโดยใช่เหตุ
หากเป็นปุ๋ยเคมี ให้ใส่ทุก 30 วันโดยไม้กระถางใส่ครั้งละ 1 ช้อนชา หากไม้ใหญ่ลงดิน ใช้ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม ต่อ 1 ต้น
หากเป็นปุ๋ยออสโมโค้ท(ปุ๋ยละลายช้า ใส่ทุกๆสามเดือน)
ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่ทุกๆ 14 วัน ในอัตราส่วนข้างต้น
หรือการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้องคืออ่านสลากปุ๋ยข้างผลิตภัณฑ์จะดีที่สุดการใส่ปุ๋ยมากเกินไป ไม่ช่วยทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารมากขึ้น แต่จะทำให้เราสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและปุ๋ยโดยใช่เหตุ