ลักษณะอาการ
เชื้อ สามารถเข้าทำลายรากฝอย รากแขนง และตามโคนต้น สังเกตเห็นได้ว่าอาการใบจะมีสีเหลืองซีดถึงเหลือง โดยเริ่มที่เส้นกลางใบก่อนแล้วลุกลามไปเรื่อย ๆ จากโคนใบไปถึงยอด ใบจะเขียวม้วนงอ เมื่อโดนแดดจัด ๆ ในตอนกลางวัน หรือใบเหี่ยวคล้ายขาดน้ำ ใบจะร่วงกิ่งแห้งตาย ผลมีสีเหลืองร่วงหล่นง่าย เมื่อขุดดูที่รากจะพบว่ารากฝอยเน่า ถอดปลอก รากแขนงหรือรากขนาดโตเน่าเปื่อยยุ่ย และลุกลามไปทั่ว ใบแห้ง ผลร่วง ถ้าเป็นมากอาจถึงต้นตายได้ ในเวลารวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกที่ทำให้รากเน่า เช่น น้ำท่วมขัง การใช้สารเคมีผิด และพิษจากปุ๋ยเคมี เป็นต้น
การป้องกันกำจัด
1. ป้องกันอย่าให้น้ำขังหรือแฉะที่โคนต้น เพราะเป็นสาเหตุชักนำให้ เกิดโรคเชื้อราได้ง่ายนั้นเอง
2. ปรับสภาพดินปลูกให้โปร่ง โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อทำให้การ ระบายน้ำอากาศดี
3. ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก และ แสงแดดส่องเข้ามาถึงโคนต้น นี้คืออีกหนึ่งสาเหตุของการตัดใบครับ
4. ควรหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจทำให้โคนต้น ราก เกิดบาด แผลเพราะเชื้อราสาเหตุจะเข้าทำลายได้ง่าย (ระวังเวลาพรวนดินครับ)
5. หากต้นทรุดโทรม ในระยะแรกควรบำรุงต้นด้วยการให้ธาตุ อาหารเสริมทางใบเพราะรากทำงานไม่เต็มที่
6. หากสังเกตุเห็นอาการเบื้องต้น ให้รีบสำรวจรากทันที และจากนั้นล้างรากให้สอาด แล้วตัดสว่นที่เน่าอกกให้หมด ทาด้วยปูนขาวหรือแดงครับกรณีรากใหญ่ ทิ้งให้แห้งลงปลูกใหม่
7. อย่าใช้ดินเดิมครับ ให้นำดินและส่วนที่เน่าไปทิ้งให้ไกลที่สุดครับ
การใช้สารเคมี
1. ถ้าหากต้นส้มที่เป็นโรครุนแรงทรุดโทรมมาก ควรขุดเผาทำลาย แล้วราดดินด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น oxadizyl หรือ ethazol หรือ benalaxyl หรือ metalaxyl เป็นต้น
2. ในกรณีที่โคนต้นมีอาการโรคโคนเน่า เป้นแผลเน่าช้ำ เปลือก แตก ยางไหล ให้ใช้มีดถาก หรือขูดแล้วทาด้วยสารเคมี phosethyl al หรือ metalaxyl 25%+ mancozeb หรือ cycloheximide เป็นต้น
การแพร่ระบาด
โรค นี้ระบาดมากในฤดูฝน หรือสภาพที่มีความชื้นสูง (ฤดูหนวามก็เอาการนะครับ) แพร่ระบาดโดยสปอร์เชื้อ สาเหตุติดไปกับลมพายุ ฝน น้ำ กิ่งพันธุ์ หรือน้ำที่ไหลไปตามร่องสวน อื่น ครับ วัสดุการปลูก ต่างๆ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ